เยี่ยมบ้านลุงโฮ เยือนสุสานโฮจิมินห์และพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
มาเที่ยวฮานอยถ้าไม่ได้มาชมสุสานของผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในอินโดจีนในช่วงยุคหนึ่ง
คงน่าเสียดายไม่น้อยเลย ว่ามั้ยครับ??
ที่ที่เราพูดถึงนี้ หลายคนน่าจะรู้จักกันดี
เพราะคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักลุงโฮหรือ โฮจิมินห์
นั่นเองครับ
ก่อนจะชมสุสานโฮและพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
เรื่องการแต่งกาย : ต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพนะครับ
ให้เกียรติสถานที่ครับ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจอยู่ด้านหน้าเลยล่ะ ห้ามถ่ายรูป
และระหว่างเคารพศพลุงโฮ ต้องอยู่ในกิริยาที่สำรวม
ถ้านำกล้องใหญ่หรือกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ จะต้องฝากก่อนเข้าด้วยครับ เตรียมพร้อมก่อนก็ดีครับ
เพราะก็มีบางคนที่ไม่รู้และกลายเป็นว่าไปผิดระเบียบเขาก็เลยเป็นว่าไม่ได้เข้าชมครับ
สุสานโฮจิมินห์ (HoChi Minh’ s Mausoleum)
ชื่อในภาษาเวียดนามเรียกว่า จู่ติกโอจิมินห์ (Lang Chu Tich ho
Chi Minh) เป็นสุสานขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนามครับ ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์,
ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขาเมื่อวันที่
2 กันยายน ค.ศ. 1945 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโคว์
แต่รวมสถาปัตยกรรมของเวียดนามเข้าไปด้วย ดูสวยงามไม่เหมือนสุสานเลยครับ
บริเวณรอบๆถูกแบ่งเป็นทางเดินซึ่งประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้กว่า 250 ชนิดจากทั่วทั้งเวียดนาม ภายในสุสานโฮจิมินห์มีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา
ส่วนร่างของโฮจิมินห์นั้นถูกเก็บรักษาอยู่ในโลงแก้วบริเวณใจกลางสุสาน
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รู้จักกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม โดยในสุสานแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น,
ห้ามพูดคุยเสียงดัง,
และไม่อนุญาตให้สูบบุรี่,ถ่ายรูปและวิดีโอใดๆทั้งนั้น
สุสานโฮจิมินห์ จะปิดทุกวันจันทร์และวันศุกร์ ก่อนเข้ามีเจ้าหน้าที่ตรวจการแต่งกายและตรวจกระเป๋า
และต้องเดินไปตามทางเดินอย่างมีระเบียบ
สุสานโฮจิมินห์จะปิดในฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลานาน 2 เดือน (ช่วงเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน
เพื่อนำศพลุงโฮไปทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาที่รัสเซียครับ)
บริเวณเดียวกันนั้นก็สามารถชมส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับโฮจิมินห์ได้ คือ
บ้านพักลุงโฮ (Ho Chi Minh's stilt house) + วิหารเสาเดียว (One Pillar Pagoda) + ทำเนียบเหลือง
เสียค่าเข้าชม คนละ 25,000 บาท
ทำเนียบเหลือง (Presidential Palace) :
ซึ่งเคยเป็นที่ทำงานของคนมีอำนาจสูงสุดอินโดจีน ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นอาคารทรงโคโลเนียลสีเหลือง
ที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1901 ปัจจุบันเป็นที่รับแขกเมืองของเวียดนาม รอบๆ
ทำเนียบมีสวนดอกไม้และสระน้ำ
บ้านพักลุงโฮ บ้านไม้ยกพื้นสูง : ด้านหลังทำเนียบมีบ้านไม้หลังเล็กๆ
ซึ่งลุงโฮใช้เป็นที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 1954 - 1958 จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
ใต้ถุนบ้านเล็กๆ หลังนี้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ ที่โฮจิมินห์ใช้เป็นที่ประชุม
กับนายทหารคนสำคัญๆ วางแผนการรบกับทหารสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนาม
ข้างบนบ้านเป็นห้องหนังสือและห้องนอนของโฮจิมินห์ซึ่งอยู่อย่างเรียบร้อยและสมถะมากๆ
วิหารเสาเดียว (One Pillar Pagoda) : ชาวเวียดนามเขาเรียกที่นี่ว่า
“จั่วโมดโกด” ครับ สร้างเป็นศาลาเก๋งจีนหลังเดียวขนาดเล็กตั้งอยู่บนเสาต้นเดียว อยู่กลางสระบัวรูปสี่เหลี่ยม วัดรูปทรงดอกบัว วัดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้แก่
เจ้าแม่กวนอิมครับ
พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ (HoChi Minh Museum)
หลังจากแวะชมเจดีย์เสาเดียวกันแล้ว จุดหมายต่อไปก็คือพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
ซึ่งก็เดินต่อไปอีกไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงครับ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชของชาวเวียดนาม
โดยการย้อนรอยชีวิตของท่านโฮจิมินห์ ภายในจะพบกับรูปปั้นขนาดใหญ่ของท่านโฮจิมินห์ที่ยืนอยู่กลางห้องโถง
ทางด้านหลังของรูปปั้นนั้น มีผู้รู้บอกมาว่า นั่นก็คือพระอาทิตย์และก้อนเมฆนั่นเอง
ในพิพิธภัณฑ์ก็มีการจัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เช่น
เรื่องราวเกี่ยวกับกำเนิดแนวคิดคอมมิวนิสต์ มีการจำลองสภาพความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามในอดีตและภายในอาคารก็มีการจัดแสดงเรื่องราวต่าง
ๆ เยอะมาก ซึ่งถ้าเล่าให้ฟังหมดก็คงอดสนุก
ฝากให้ไปชมด้วยตัวเองดีกว่าครับ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก oknation.net,pantip.com
Learn more »